เรื่องของ “การทำสงครามในอวกาศ” ก่อนหน้านี้ดูเหมือนเป็นเพียงเรื่องสมมติที่มีอยู่แต่ในนวนิยาย หรือภาพยนตร์อย่าง Star Wars หรือ Star Trek หรือกระทั่งแบบการ์ตูนกันดั้ม (Gundam) เท่านั้น
แต่ล่าสุด เจ้าหน้าที่ระดับสูงของกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ เผย กองทัพสหรัฐฯ มีความพร้อมสำหรับ “ความขัดแย้งในอวกาศ” หลังจากเดินหน้าพัฒนาเทคโนโลยีต่อต้านดาวเทียมเพื่อตอบโต้ภัยคุกคามที่เกิดจากประเทศที่พยายาม “ยั่วยุ” สหรัฐฯ เช่น รัสเซีย และจีน
พลจัตวา เจสซี มอร์เฮาส์ จากกองบัญชาการอวกาศสหรัฐฯ (US Space Command) กล่าวว่า ความก้าวร้าวของรัสเซียและวิสัยทัศน์ของจีนที่จะกลายเป็นมหาอำนาจในอวกาศภายในกลางศตวรรษนี้ ทำให้สหรัฐฯ “ไม่มีทางเลือก” นอกจากต้องเตรียมพร้อมสำหรับการต่อสู้ในวงโคจรของโลก
“สหรัฐฯ พร้อมที่จะต่อสู้ในอวกาศหากจำเป็น … หากมีใครคุกคามสหรัฐฯ หรือผลประโยชน์ใด ๆ ของเรา รวมถึงพันธมิตรที่เรามีสนธิสัญญาป้องกันร่วมกัน เราก็พร้อมที่จะต่อสู้” มอร์เฮาส์กล่าว
การระเบิดครั้งใหญ่ในอวกาศ เกิด “ลูกไฟขนาดใหญ่กว่าระบบสุริยะ 100 เท่า”
“ดาวเสาร์” ทวงคืนบัลลังก์ ดาวเคราะห์ที่มีดวงจันทร์มากสุดในระบบสุริยะ
เกิดขึ้นจริงปีหน้า ดินเนอร์หรูบนชั้นบรรยากาศโลก ใกล้ชิดกับอวกาศ
ดาวเทียมถือเป็นรากฐานของวิถีชีวิตในโลกปัจจุบัน ตั้งแต่ระบบธนาคารไปจนถึงการพยากรณ์อากาศ และมีความสำคัญต่อปฏิบัติการทางทหาร ไม่ว่าจะเป็นการรวบรวมข่าวกรอง การสื่อสาร และการนำทาง แต่การพึ่งพาดาวเทียมมากเกินไปหมายความว่า หากมีการโจมตีทรัพย์สินในวงโคจรของประเทศหนึ่ง ๆ อาจส่งผลร้ายแรงตามมา
ที่ผ่านมา มีอยู่ 4 ประเทศ คือ จีน สหรัฐฯ อินเดีย และรัสเซีย ที่ได้ทดสอบความสามารถในการต่อต้านดาวเทียม โดยการทดลองทำลายดาวเทียมของตนเองด้วยขีปนาวุธจากภาคพื้นดิน แต่การทดสอบดังกล่าวก่อให้เกิดเศษซากขยะอวกาศจำนวนมาก ซึ่งทำให้ดาวเทียมดวงอื่น ๆ ตกอยู่ในความเสี่ยง
เมื่อรัสเซียยิงดาวเทียมดวงหนึ่งของตนเองตกในปี 2021 การระเบิดดังกล่าวทำให้วงโคจรของโลกเต็มไปด้วยชิ้นส่วนดาวเทียมกว่า 1,500 ชิ้น
มอร์เฮาส์กล่าวว่า “เมื่อคุณสร้างกลุ่มเศษซากนั้นให้ลอยอยู่บนวงโคจรเป็นเวลาหลายทศวรรษ มันเกือบจะเหมือนกับการจุดระเบิดอาวุธนิวเคลียร์ในสนามหลังบ้านของคุณเอง”
เมื่อเผชิญกับการแข่งขันทางอวกาศครั้งใหม่ มอร์เฮาส์บอกว่า สหรัฐฯ จะยังคงพัฒนาเทคโนโลยีต่อต้านดาวเทียมต่อไป “ไม่ใช่เพราะเราต้องการต่อสู้ แต่เพราะนั่นคือวิธีที่ดีที่สุดในการยับยั้งความขัดแย้งไม่ให้เกิดขึ้น” พร้อมเสริมว่า “จะไม่มีส่วนร่วมในการทดสอบที่ขาดความรับผิดชอบ”
รัสเซียและจีนกำลังพัฒนายานอวกาศที่สามารถปฏิบัติการต่อต้านดาวเทียมได้ ในปี 2020 สหรัฐฯ กล่าวหารัสเซียว่า ยิงขีปนาวุธจากดาวเทียม 1 ใน 2 ดวงที่ติดตามดาวเทียมสอดแนมของสหรัฐฯ
ในขณะเดียวกัน จีนได้เปิดตัวดาวเทียมที่มีแขนกลที่สามารถคว้าดาวเทียมดวงอื่นได้ และได้พัฒนาวิธีการวางวัตถุระเบิดไว้ในหัวฉีดขับดันของดาวเทียมของฝ่ายตรงข้าม วัตถุระเบิดได้รับการออกแบบให้ตรวจพบได้ยาก และเมื่อจุดชนวนจะดูเหมือนว่าสาเหตุการระเบิดเกิดจากเครื่องยนต์ทำงานผิดปกติ
นอกเหนือจากอาวุธที่คว้า พุ่งชน หรือยิงเป้าหมายให้ร่วงแล้ว ยังมีวิธีการอื่น ๆ ที่ทำให้การทำงานของดาวเทียมติดขัด หรือทำให้ฮาร์ดแวร์เสียหายด้วยเลเซอร์ สเปรย์เคมี หรือไมโครเวฟกำลังสูงคำพูดจาก สล็อตเว็บตรง
“เรามีความสามารถที่หลากหลายที่เราสามารถนำมาปรับใช้ได้ และเราจะพัฒนาความสามารถต่อไปเพื่อให้เรารักษาสถานะการป้องปรามที่น่าเชื่อถือเอาไว้” มอร์เฮาส์กล่าว
จากความเคลื่อนไหวล่าสุดที่เกิดขึ้นนี้ อาจเป็นข้อบ่งชี้สำคัญว่า สงครามและความขัดแย้งระหว่างประเทศ อาจกำลังยกระดับไปอีกขั้นแล้ว
เรียบเรียงจาก The Guardian
ภาพจาก Freepik